
สวัสดีครับขอแนะนำการเดินทางเส้นทาง น่าน-ด่านห้วยโก๋น-หงสา-เชียงแมน-หลวงพระบาง เส้นทางใหม่ ที่หลายๆ คนอยากเดินทางมาหลวงพระบางด้วยตนเอง เพราะเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด และเดินทางสะดวกที่สุดในเวลานี้ 3 ชั่วโมง ครับ
พร้อมกันแล้วก็ออกเดินทางจากตัวเมืองน่าน เพื่อเดินทางสู่ด่านห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ระยะทางจากตัวเมืองน่าน ถึงด่านห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวม 138 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยประมาณ แบ่งเป็น เส้นทางจาก อำเภอมือง – อำเภอทุ่งช้าง 80 กม. 1 ชั่วโมง และเส้นทางจากอำเภอทุ่งช้างไปด่านห้วยโก๋น 58 กม. 1 ชั่วโมง (ก่อนออกเดินทางอย่าลืมตรวจสอบสภาพรถเรียบร้อย น้ำมันพร้อม เงินในกระเต๋ายังครบ พาสปอต เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทั้งคนและรถ)
ปั้มน้ำมัน จุดสุดท้ายอยู่ที่อำเภอทุ่งช้าง นะครับ ขวามือ แวะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาอีกรอบก็ได้อยู่ ส่วนเรื่องอาหารเช้า แนะนำหาชื้อตามตลาดเช้าและ นำไปทานระหว่างทาง หรือ แวะกินที่หน้าด่านก็ได้ อดใจอีกนิดข้ามไปกินฝั่ง สปป.ลาว ก็ได้นะครับ แล้วแต่สะดวก สำหรับท่านๆ ที่เดินทางไปเที่ยวกันเอง
และอีกที่หนึ่งคือ ปตท. ที่เมืองหงสา มีกาแฟอเมซอน ด้วยครับ เอาแก้วเยติ ไปด้วย แนะนำ 555


08.00 น. ถึงด่านห้วยโก๋น ผ่านพิธีการข้ามแดนไทย สู่ ตม.น้ำเงิน ประเทศลาว จากนั้นเดินทางสู่ หลวงพระบาง โดยใช้เส้นทางตัดใหม่ล่าสุด เมืองหงสา บ้านเชียงแมน เมืองจอมเพ็ด หลวงพระบาง โดยมีรายละเอียดการเดินทางตามนี้ นะครับ http://www.nantoday.com/?p=1017
น่าจะเที่ยงๆ ครับ เดินทางถึงเมืองเชียงแมน ก่อนจะข้ามไปหลวงพระบาง แวะทานกาแฟ หรืออาหารให้สบายๆ กันก่อน ณ ตาดร้อยคัว ท่ามกลางน้ำตกและจุดสตาร์ทกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย The Green Jungle Park หรือสัมผัสธรรมชาติที่นี่ เล่นซิปไลน์ ไห้สนุกสนานก่อน ก่อนถึงบ้านเชียงแม่ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นการพักรถและเตรียมตัวข้ามโขง นะครับ รายละเอียด http://www.go2laos.com/?p=936
หลังจากนั้นก็เดินทางต่อ ไปยังบ้านเชียงแมน รอนำรถ ลงแพขนานยนต์ เพื่อข้ามแม่น้ำโขง สู่ตัวเมืองหลวงพระบาง ใช้เวลา 10-15 นาที ในการข้าม ทั้งนี้อาจะมีการรอคิวนานหน่อย หากปริมาณรถมีจำนวนมาก นะครับ
พอมาถึงหลวงพระบาง ก็ต้องหาโรงแรมที่พักกันก่อน แนะนำ booking.com /agoda.com ไปก่อน หรือหากมีเวลาก็ขับรถผ่านตะเวนเดินหากัน ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ไม่อยากให้เป็นกังวลมากเรื่องที่พัก เพราะมีจำนวนมาก ครับ ผมก็บอกไม่ได้ว่าที่ไหนดีกว่าที่ไหน เพราะความต้องการและกำลังทรัพย์แต่ละคนมันต่างกัน … อย่าตามรีวิวมากครับ 555 แต่ต้องบอกก่อนนะครับ ในตัวเมืองหลวงพระบาง ห้องพักจะไม่ค่อยมีที่จอดรถ ดังนั้นเราอาจจะต้องจอดรถตามถนน หรือก็มีพื้นที่จำกัดมาก ผมมีรายละเอียดการเตรียมตัวก่อนทัวร์เมืองลาว ลองอ่านเพิ่มเติม http://www.go2laos.com/?p=771
เช็คอินอะไรเรียบร้อยก็ออกเดินเที่ยวชมความงามของหลวงพระบาง ยามเย็น ก่อนที่ไปทานข้าวหรือช๊อปปิ้ง
แนะนำขึ้นสู่ธาตุพูสี ขึ้นบันได 328 ขั้น เชิญนมัสการธาตุพูสี เจดีย์ธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง ตลอดทางขึ้นท่านจะได้รับกลิ่นหอมจากดอกจำปาลาว ดอกไม้ประจำชาติลาว เมื่อท่านถึงยอดให้ท่านนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท เมื่อปี พ.ศ. 2337 พระธาตุเป็นรูปทรงดอกบัว อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ชมพระอาทิตย์ยามอัสดงวิวทิวทัศน์รอบเมืองหลวงพระบางยามเย็น ความฟินของการเดินทางมาหลวงพระบางเมือมีโอกาสเห็นเมืองรอบทิศ ทัศนียภาพสวยงามหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็ลงมาหาหาอาหารทานกันก่อน เอาสะดวก ก็ตรงตลาดมืดครับ ส้มตำร้านที่มีเรือหนะ … แนะนำครับ 555 ร้านประจำแฟนเพจเรา คนเยอะหน่อย หลังจากนั้นก็เดินเที่ยว ซื้อของถนนคนเดินและพร้อมเข้าที่พัก เมืองหลวงพระบางค่ำคืนแรก
ใส่บาตรข้าวเหนียว-ล่องเรือแม่น้ำโขงถ้ำติ่ง- วัดเชียงทอง-พระราชวัง
ตื่นเช้าหน่อยนะ ราวๆ 05.30น. หากประสงค์อยากร่วม ทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียวพร้อมกับประชาชนชาวหลวงพระบางในทุกเช้า พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะออกบิณฑบาต เป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวหลวงพระบาง จากนั้น เดินชมตลาดเช้าหลวงพระบางซึ่งเป็นตลาดสด ท่านสามารถเลือกซื้ออาหารพื้นเมือง และของป่า ซึ่งเป็นแบบฉบับของชาวลาว กาแฟประชานิยมในหลวงพระบางมาจิบกาแฟโบราณกันหน่อย กลับสู่ที่พัก และเตรียมตัวเดินทางค้นหาความงามของเมืองนี้ คลาสสิคมากเส้นทางท่องเที่ยว ไปชม พระราชวังหลวงพระบาง สร้างในรัชสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและลาว เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ จนพระองค์สวรรคต ก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พศ.2518 ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ นำท่านชมหอพระบางเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปประทับยืนปางห้ามสมุทรเป็นศิลปะขอมสมัยบายน น้ำหนัก 54 กิโลกรัม เป็นทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์
ชมวัดวิชุนราช สร้างในสมัยพระเจ้าวิชุนราช (พ.ศ. 2046 ) นับเป็นอีกหนึ่งพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความนับถือ ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีรูปทรงคล้ายกับลูกแตงโม (แต่ผมมองอย่างไงก็ไม่เหมือน) ไม่รู้คนอื่นมองอย่างไงนะ 555
อันนี้แนะนำ จะเดินทางโดยทางเรือหรือจะขับรถไปเองก็ได้ (จากหลวงพระบาง) เดินทางไปยังหมู่บ้านซ่างไห (หมู่บ้านต้มเหล้าและทอผ้าชื้อของฝากที่นี่ก็ราคามิตรภาพ) และสามารถใช้บริการเรือในท้องถิ่นเดินทางชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงถ้ำติ่ง ซึ่งเป็นถ้ำอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำโขงมีอยู่ 2 ถ้ำ คือ ถ้ำล่างและถ้ำบน ถ้ำติ่งลุ่ม หรือ ถ้ำล่างสูง 60 เมตรจากพื้นน้ำ มีลักษณะเป็นโพรงน้ำตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวนนับ 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถ้ำติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถ้ำไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำแต่ไม่มากเท่าถ้ำล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
จะทานอาหารกลางวันแถวนั้นก็มีร้านอาหาร ตรงข้ามถ้ำติ่งนั้นแหละครับ หรือจะเข้าเมืองหลวงพระบาง แนะนำร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม หลวงพระบาง ร้านดังที่คนเดินทางต้องไปทาน
ทานอาหารกลางวันเรียบร้อย หรือจะ เดินทางต่อไปยัง น้ำตกตาดกวางสี ห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 30 กม. ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ชมความงดงามของน้ำตก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงราว70-80 เมตร ถือเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง โดยมีสายน้ำที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งน้ำที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของน้ำตก อิสระให้ท่านดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำ บันทึกภาพอันประทับใจ ครับ
หลังจากนั้นกลับเข้าเมืองหลวงพระบางอีกรอบ เยี่ยมชมวัดเชียงทอง วัดที่ตั้งอยู่ริมผั่งเม่น้ำโขงสร้างในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ช่วงประมาณ ปี พ.ศ. 2102 – 2103 ซึ่งวัดเชียงทองได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงค์ และเข้าชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้าย ชมพระอุโบสถ ที่มีศิลปะแบบล้านช้าง หลังศรแอ่นโค้งต่ำ ซ้อนกันอยู่สามชั้น มีช่อฟ้าที่อยู่ตรงกลางของหลังคารวมกัน 17 ช่อ ถ้าเป็นคนสามัญสร้างจะมี 1-7 ช่อเท่านั้น ชมพระพุทธรูปป่างห้ามสมุทรในอูปมูง ด้านข้างพระอุโบสถ ชมวิหารพระม่านที่ประดิษฐานพระม่าน ผนังสีชมพู ภาพประดับกระจกสีเล่าถึงวิถีชีวิตชาวหลวงพระบาง ชมโรงราชรถออกแบบโดยเจ้ามณีวงศ์ ภายในบรรจุพระพุทธรูปแกะสลักไม้จำนวนมากที่เก็บมาจากวัดร้างต่างๆ
ผมต้องแนะนำที่นี่ไว้ตอนเย็นๆ เพราะบรรยากาศจะดีและเหมาะสมที่สุด ยิ่งหากท่านชอบการถ่ายภาพแล้วละก้อ ที่นี่จะพอดีในช่วงเย็นๆ
เดินยลหลวงพระบางให้พอใจครับ ถ่ายรูปบ้านเก่าอาคารเก่า นั่งร้านอาหาร บาร์เล็กๆ จิบเครื่องดื่มเย็นให้สบายใจ หาอาหารอร่อยๆ ทาน โดยเฉพาะอาหารฝรั่งเศส ที่นี่ขอแนะนำจริงๆ มีหลายๆ ร้าน ให้เปิดดูเมนูหน้าร้านและสังเกตว่าร้านที่คนเยอะๆ เป็นที่นิยม อาหารอร่อย บริการดี ลูกค้าชื่นชอบ เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะตามรีวิวและเรกคอมเมนต์จากนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ครับ
หลวงพระบางยามค่ำคืน ก็น่าหลงใหล แนะนำ ฟูมูน ดาวฟ้า หรือ ยูโทเปีย (ที่ผมไปบ่อยๆ นะ) และยังมีที่อื่นแนะนำอีกหลายแหล่ง
หลวงพระบาง-เชียงแมน-หงสา-ห้วยโก๋น-น่าน หรือจะออกด่านอื่นๆ ก็ได้ เช่น กลับเชียงราย กลับไชยะบูลี ไปจังหวัดเลย หรือ กลับวังเวียง เวียงจันทน์ หนองคาย ก็ได้
รับประทานอาหารเช้า เรียบร้อย ตรวจเช็คเอกสาร พาสปอต สัมภาระเรียบร้อยก็ออกเดินทาง วางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้วหรือเปล่า ว่าจะเข้าด่านน่าน แล้วออกด่านไหน … บางคนมีเวลามากอาจจะอยากเดินทางไปวังเวียง เวียงจันทน์ และออกด่านหนองคาย หรือ อยากกลับทางเดิม ก็เป็นได้ … ขากลับก็ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ บางทีจุดหมายปลายทางอาจจะไม่ได้สวยงามเท่ากับระหว่างการเดินทางนะครับ
กลับมาอย่าลืมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเราที่เพจฯ นะครับ
ขอขอบคุณและสวัสดีครับ
http://www.nantoday.com/
http://www.go2laos.com/
https://www.facebook.com/nan2daydotcom/
https://www.facebook.com/golaopdr/

